กะเหรี่ยง ผี! - กะเหรี่ยง ผี! นิยาย กะเหรี่ยง ผี! : Dek-D.com - Writer

    กะเหรี่ยง ผี!

    " แค่เห็นเป็นเงาลางๆ ไม่กล้าพูด...

    ผู้เข้าชมรวม

    457

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    457

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.พ. 53 / 06:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      หมู่บ้านกะเหรี่ยงคริสต์อันไกลโพ้น

       

                เดือนคล้อยลงต่ำ  มื้อดา ยามนั้นยังรุ่นกำดัดแรกแตกมังสะสาว ทั่วสรรพางค์ฉวีนางนวลลออระเรื่อ โขนงโค้งเรียว สองเนตรงามด้วยเปนประกายระยิบ อีกเกศนั้นเล่าก็มันงามแลดำสุดดำ ร่างระหงมิผอมมิพีอะเคื้อยิ่งแล้ว

      ค่ำนี้นางมุ่งปักภูษาโดยใช้เข็มด้ายเบี้ยหอยแลลูกเดือยหมายใจจักให้เป็นลาย พะโดกิ ( ลายงูเหลือม ) อยู่บนกระท่อมแห่งนางอันเปนเรือนยกใต้ถุนสูงทอดกระไดลงดิน กระใดนี้ ยามมิใช้สอย อาจยกขึ้นเก็บได้ ( นึกซะว่าพวกนี้เป็นภาษากะเหรี่ยง ) แท้ๆแล้วงานปักผ้าเปนกิจเปนรีตที่มื้อดามิใคร่พึงใจนัก ด้วยดรุณผู้ใดยะ ( ทำ ) การฉะนี้ เปนนัยคร่าวๆ ว่าบุตรีนั้นมีจริตแลหมายท่าหมายคอยผู้ใดอยู่จวบน้ำค้างลงแล้วจึ่งมิได้ฤกษ์เข้าหลับเข้านอน หากภูษาเครื่องนุ่งแห่งมื้อดาที่มารดาเคยเย็บฮื่อ ( ให้ ) นั้นบัดนี้ออกเก่าคร่ำสิ้นเสี้ยง ( หมด ) ทุกผืนชิ้น แลนางล้วนมีกิจมิว่างเว้นในช่วงวัน จึ่งนางต้องจำหฤทัยลงหัตถ์เย็บด้วยตัวเก่า ( ตัวเอง ) เมื่อตะวันลาแล้ว

      จักนุ่งผ้าห้ามซื้อ

      ปักเองเท่านั้น คนอย่างกู

      ชาติหน้าคงเสร็จมั้ง

      แม้นอยู่ดายแต่ผู้เดียว นางมักติดจักเผลอรจนาไฮกุโดยงดโดยเว้นเสียมิได้ ชั่วแต่มิได้ออกโอษฐ์อื่อผู้ใดได้สดับฤๅล่วงรู้ อาจเปนเหตุให้สงสัยในจริตแห่งนางที่สนทนาด้วยตัวเก่า ( ตัวเอง )

      นางชะงักจากกิจน้อยหนึ่ง  แลเขม้นมองไปในเวหนราตรีนี้เป็นคืนลาค่วย ( พระจันทร์เต็มดวง ) กระจ่างงามด้วยแสงแขอยู่เรืองๆ ภูตพเนจรลอยระรื่นเปนที่จำเริญตาแก่ผู้มีทิพย์จักษุ  แม้นใครใคร่ข่มเนตรนิทรา เกรงว่าจักมิง่ายด้วยแสงเบื้องคคนานต์กระโน้นเอื้อให้แลประจักษ์พิภพรางๆ ดุจจำลองภาพเนินไศลทิวไม้แลคณาเรือนในยามวัน ในทำนองนิลเศวต ( ขาวดำ ) 
      หากยามนี้มื้อดาหาอภิรมย์  ฤๅทุกข์ร้อน  ฤๅใส่หฤทัยในการว่าจะหลับฤๅตื่น  ฤๅระแวดระวังภูตฤๅพรายฤๅอันใดนั้นหาไม่
      คงมุ่งตะบอยปักภูษาไปด้วยจิตมั่น

      ลึกในกมลนั้นเล่า นางเฝ้าคำนึงไปถึงกิจอันหมายในกาลอนาคต  ซึ่งนางดำริจักละหมู่บ้านจรสู่นาครใหญ่
      ลางทีนางจักเข้าแสวงการอันเปนประโยชน์ แลเข้าคู่บังควรแก่สติสมองแห่งนางได้กระ
      มัง มื้อดาสู้ร่ำเรียนมาหนานักด้วยครูฝาหรั่งเสียจนสิ้นตำรา กล่าวได้ว่านางเปนสตรีที่เฉียบแหลมล่วงรู้ในวิทยาคณานับ หาเหมาะหาควรที่จักมาอยู่เปล่าดายเก็บเห็ดหาหอยในดงในดอนเฉกทุกทิวาราตรีนี้ไม่

      เสียงฝีเท้าย่างสวบๆ ใกล้เข้ามาทีละน้อยละน้อยจากเบื้องหรดีทิศ อันหลังคาคุ้มเรือนคลุมบดบัง เปนเหตุให้นางมิอาจแลเห็นว่าผู้ใดที่เปนผู้ก้าว  แลบัดนั้นเอง  จู่ๆ เรือนทั้งเรือนก็โคลงสะท้านปานประหนึ่งว่าแผ่นปฤถวีสะเทือนไหว  มาตรว่าเบื้องนอกยังคงนิ่งสนิทเปนปรกติ!

                stop  บัดเดี๋ยวนี้!

      นางแผดกล่าวโดยสุรเสียงทรงพลานุภาพ  แลในบัดนั้นเรือนก็หยุดโคลง 

      หากมันผู้นั้นบ่ได้หยุดย่าง  แลมิได้แจ้งนาม  เมื่อนั้นมื้อดาเจ้าใช้หัตถ์ซ้ายดีดเบี้ยหอยปักผ้าออกหนึ่งเมล็ดต่างศาสตรา  วาดกรซ้ายสู่เบื้องปฤษฎางค์อีกทั้งสะบัดหงายข้อหัตถ์ขวาใช้ดรรชนีไฉไลกำหนดบังคับพุ่งเข็มซึ่งร้อยด้ายสายเดียวตีวงโค้งอ้อมเรือนออกไปด้วยฤทธิ์มนตร์ สู่ตำแหน่งที่กะหมายรู้เอาโดยญาณ ( ด้วยสภาวการณ์มิเอื้อให้ประจักษ์ด้วยสองเนตร )  หากมันผู้บุกรุกป้องปัดเมล็ดเดือยแลเข็ม แลด้ายเสียด้วยเชิงดาบแลแรงกรได้ปัจจุบันทันท่วงที  ด้วยแจ้งฝีมือแลสไตล์การออกอาวุธทันกันอยู่
               ย้าง ( หยุด ) เสียเถิด  เปนข้าเอง   

      เปนเสียงแห่งอ้าย ต่านเจ้ง กิ๊กแต่ครั้งบรรพกาลแห่งมื้อดาที่เลี้ยงมิใคร่เชื่อง เอ่ยเอื้อนปรามนางด้วยสำเนียงเชิงสัพยอก  แลเปนการแจ้งแก่ผีเรือนในทีว่าที่มาแห่งเสียงย่างดำเนินปลอมแปลกนั้นเปนเขาเองมิใช่อื่นไกล

                ผีเรือนท่านโคลงเรือน ไล่อาคันตุกะที่ข้าบ่พึงใจต้อนรับ นับว่าชอบแล้ว! สูนั่นแล stop!  มาตรว่าสูมึงปันใจกายให้นางลิงค่างบ่างชะนีอื่นใดแล้ว  why จึ่งกรายตีนมาเถิงนี่ให้ข้าเกิดโทโส  หากบังอาจก้าวล่วงเขตเรือนข้า even อีก One more step อย่าได้ออกอ้างว่าอีมื้อดานี้ heart เหี้ยม

      นางติดเอ่ยวจีกะเหรี่ยงคำ  อังกฤษคำ  ต่อพักตร์ผู้อื่นด้วยวิสัยกะเหรี่ยงคริสต์แรกรุ่นมีการศึกษาในกาลกระนั้น

      จักกล่าวไป  นางเคารพผีเจ้าแถนหลวงพู้นของพวกฝาหรั่ง จำเพาะต่อเบื้องพักตราครูแหม่มผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิธีคิดแลวิชชา  หากบ่ได้เคยนึกลำเลิกละเลยต่อผีบน  ผีน้ำ  ผีลุ่ม  ผี local  ที่ดูแลนางมาแต่ปู่ย่าตาทวด  นางสู้ถนอม มิซัวเกะ ( พรหมจรรย์ ) แห่งนางมาแต่น้อยคุ้มใหญ่  คัดเฟ้นสนทนากับผู้บ่าวจนเจนเนตรเจนหฤทัยว่ามันผู้นั้นนึกนิยมไปในวิถีผัวเดียวเมียเดียวโดยเคร่งดุจเดียวกับนางแต่เท่านั้น จึ่งคบหาแลเอื้อเฟื้อเถิงยอมฮื่อก้าวขึ้นเรือน 

      เมื่อนางปะหน้าต่านเจ้งในช่วงต้น  มันนั้นนับว่าเปนผู้มีรูปองอาจหมดจดตำรากะเหรี่ยง กำยำกาย มีครบด้วยฉอับ ( six pack )  กริยาแลวาจาน่าแลน่าพึงหฤทัยต่อดรุณีน้อยๆอ่อนอายุ

      แลนางก็โดนต่านเจ้งมันหลอก 

      แท้ๆ แล้ว  นางแจ้งแก่ใจชั่วแต่ได้สดับเสียงฝีเท้าแล้วว่าผู้มาเยือนนั้นเป็นอริรักเก่า แลบัดนี้มันก็มิยั้งมิหยุดก้าวเข้ามาเสียที  แม้นเตือนก็แล้ว 

      ครานี้นางโกรธจริง นางเพ่งตบะเดชะสาดลูกเดือยแลเบี้ยหอยจาก " ต่าคา " 
      ( กระจาด ) ออกโดยแรงดุจ่าวิรุณ เอนวาดกายเวียนทักษิณาวัตรไปเบื้องปฤษฎางค์แลไขว้ข้อหัตถ์ทั้งสองสะบัดหงายกรายนิ้วทั้งสิบบังคับพุ่งปล่อยเข็มแลด้ายคละสีตีวงโค้งเปนจำนวนดุจกระสุนกลกำจายพุ่งออกจากเรือนทุกทิศา เกิดเปนเสียงแกนด้ายหมุนกราวสนั่นน่าสยดแสยง  ด้วยนางหมายจักปลิดชีพส่ง
      อ้ายชายปลิ้นปล้อนให้สิ้นชาตาไปอยู่เสียกับผี  หากต่านเจ้งผู้เจนกระบวนยุทธกะเหรี่ยงกระโจนลังกาหลังสามคำรบแลหมอบต่ำเก็บกรแบสองหัตถ์คว่ำลงแนบอุระลงกับพสุธาทันท่วง เข็มแลด้ายแลเบี้ยหอยนั้นจึ่งพ้นไปมิเปนอันตราย ( ชิน เมื่อก่อนทะเลาะกันบ่อย )  มันหอบกระเส่าโอดว่า

                จักฆ่ากันเลยเทียวฤๅ!  ราตรีนี้อ้ายมาด้วยเรื่องร้อนแท้ๆ เทียวสู  บ่ได้หมายใจจักมางอนง้อ  ฤๅเข้าหา  ฤาเกี้ยวพาอันใด  แม้นจักเจ็บแปลบกมลกลถูกบีบลูกหมากนาวสดๆ ราดรดหฤทัยที่ได้แจ้งในบัดเดี๋ยวนี้  ว่ามื้อดาสูเจ้าอยู่ไฟปักผ้ามิใช่ท่าคอยอ้ายต่านเจ้งผู้นี้

                so what?  จักตายอยู่แล้วมิต้องมาหยอด  แล้วมีกลใด  เร็ว  พูดมา

                ต่านโจ้ง น้องบ่าวน้อยแห่งข้าถูกผีมันทำเสียแล้วสูเอย!

      ต่านเจ้งกล่าวเสียงเครือ

                เอ็นดู ( สงสาร ) มันเถิดสู อ้ายนี้สิ้นแล้วซึ่งหนทางจึ่งสู้บากหน้ามา  ชั่วแต่พ่อหมอมดผีบิดาสูล่วงลับไปอยู่กับแถนบนฟ้าเสียเมื่อเดือนสามปีกลาย  อันเขตวนคามชาวเรานี้จักหาผู้ใดเรืองกฤตยามนตราคร่ำหวอดเกินชะแม่มื้อดาหาได้ไม่

      ต่านเจ้งว่าพลางจักขุนองด้วยจักขุชล  ทว่าพลันรำลึกได้ว่ากริยาการฉะนี้หาองอาจสมชาติฉกรรจบุรุษบุตรวนาหาได้ไม่  มันจึ่งกำหัตถ์แลใช้กรปาดสองนัยนาเร็วๆ ด้วยลักษ
      ณาการคล้าย
      ปาดเหื่อ  สำรวมสติกำหนดบังคับแลเอื้อนเอ่ยแสร้งจำแลงเสียงเปนคุมแค้นแทนอาดูรย์

                มาตรว่าเปนด้วยคนผู้เสือสางฤๅต่อแตน พี่บ่าวนี้คงดับแค้นโดยดับชีพมันเสียในดาบเดียวฤๅกระสุนเมล็ดเดียวบ่ต้องเตว ( เดิน ) ตากหน้ามาลุเรือนสูให้ได้ค่อนดอก  แต่นี่เปนด้วยผี 

      ต่านเจ้งยกทีเดอ" ( น้ำเต้าสำหรับบรรจุน้ำ ) ขึ้นจิบวารีระงับเหนื่อย ด้วยกล่าวมากวจีเสียจนศอแห้ง  แลมันเสียเสโธไปจนชุ่มด้วยดำเนินมาอย่างไกล

      มื้อดากำหนดหมายในกมลว่าเอาเถิด  นึกเสียว่าปันข้าวเย็นเดนสำรับแก่สุนัขหลงจร  นางสดับอาการของต่านโจ้งจากโอษฐ์ ต่านเจ้ง ( ชื่อน่ารักดีนะบ้านนี้ ) ด้วยจิตกุศลต่อสัตว์ผู้ยาก  โดยฮื่อ ( ให้ ) มันฮ้อง ( ร้อง ) ตะโกนเล่าจากนอกเรือนชาน มิอนุญาตฮื่อ ( ให้! ) ล้ำล่วงเขตเข้ามาเถิงเรือนด้วยเดียดฉันท์

      ต่านเจ้งมันว่า  สามทิวาราตรีมานี้ อนุชาน้อยแห่งมันมีจริตแผกนัก  บ่นท่องเพ้อพร่ำสุ้มเสียงพร่าแหบแสบสั่นกระเดียดไปข้างนางเฒ่าชรา  ธัญมัจฉาก็มิยอมบริโภคจนออกซูบ  แลนั่งยองย่อถ่ายมูตรโดยอิตถีเพศวิสัย ซึ่งจักมิเปนเหตุใหญ่แม้นว่ามันปล่อยเสียในทุ่งในถ้ำฤๅเชิงรุกขชาติ  หากมันเยี่ยวเสียกลางเรือนน่าอุจาดวิกลนัก  ชะรอยมันนั้นเล่าได้ไปล่วงเกินผีโป่งผีป่าเจ้าตนใดเข้าด้วยมิเดียงสา จนตนเกิดคุมแค้นเถิงแก่ตามมาสิงสู่เอาเถิงเรือนจึงเกิดความฉะนี้

      มื้อดางามตรึกตรอง  กระนั้นนางกลับดำริแผกจากต่านเจ้งผู้วันๆ มุ่งสูบฝิ่นฟันดาบแลฟันหญิง นางหาได้ปักใจเชื่อไปแต่วิถีไสยเพียงถ่ายเดียว มาตรว่าจักเปนศาสตร์ที่นางเชี่ยวชำนาญ  หากพิภพยามนี้มีปวงวิทยานานาการให้ครวญคำนึง 

      มื้อดาละวางภูษาที่คั่งค้าง ลอบยินดีที่มีกิจให้หากจากมัน นางทรงกายขึ้นฉวยล่วม  อีกฉวยเสื้อคลุมสำหรับออกนอกเรือนเมื่อวิกาลยามมากระหวัดพันกาย  ลดกายลงจากเรือน  ยุรยาตรย่างแต่ช้าๆ ห่างๆ มุ่งสู่เรือนแห่งต่านเจ้งหมายจักแก้ไขอาการ แลฮ้องแลเรียกขวัญคืนสู่ต่านโจ้งละอ่อนน้อย

                เพลานี้นางยืนจำเพาะหน้าต่านโจ้งในเรือนซอมซ่อแห่งมัน ต่านโจ้งน้อยอยูเด่นเปนประธานกลางเรือนในท่ามณฑกกริยา ( หกกบ ) น่าเกรงขาม  สองเนตรน้อยๆ ขึ้งแข็งจ้องเขียวมายังมื้อดา แลพลันหลบสายนัยนาไปคล้ายด้วยขวยละอายต่ออาการวิปริตแห่งตน

      ต่านโจ้งน้อยทรุดลงนั่งเหยียดชงค์ในปัจจุบันทันที ด้วยความขบเมื่อยฤๅประสงค์อันใดก็มิแจ้ง มื้อดางามยืนเว้นหากจากมันโดยระยะคะเนได้ 2วา แลนางใช้สองนิ้วหัตถ์คีบหนีบนาสาแห่งนางเองไว้มิยอมคลาย ( เหม็นฉี่ )

                อ้าย ( ไอ้ ) โง่ 

      มื้อดาเปรยนุ่มๆ ด้วยปราณีต่อต่านเจ้ง

                 ต่านโจ้งมิได้โดนผีมันทำดอก ลักษณาการเยี่ยงนั้นหนา จัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มของ Dissociative disorders จำพวกหนึ่งที่ฮ้องว่า Tranceandpossession disorders

      มื้อดาอัตถาธิบายเรียบๆ อย่างอ่อนหทัย

      นางให้คร้านระอาต่อวิถีชีวิตอัน ( un ) ศิวิไลซ์เยี่ยงนี้จนเกินจักกล่าวอ้างเป็นภาษาใดทั้งสิ้น

       

                อันมื้อดายามนี้กล่าวได้ว่านางเลยรุ่นสาวมามิช้ามินาน  นางกำลังสู้สาละวนปลดภูษาซึ่งนางนำขึ้นผึ่งแสงรวิเสียแต่แจ้งรุ่ง จนบ่มิเหลือละอองความชื้นแล้ว ณ ยามนี้  

      เพลานี้มื้อดาเข้ารับเบี้ยอยู่งานซักภูษา  หุงข้าวต้มแกงแลปัดแลกวาดถูดูแลเรือนแก่นางแพงแลอ้ายพัดผู้อนุชามาลุขวบปีที่สองแล้ว 

      ทั้งสองซึ่งยังอยู่ในวัยศึกษาหากเปนเจ้าเรือน ด้วยบิดาแลมารดรแห่งทั้งคู่จำจรไปแสวงทรัพย์ยังนาครไกล  จึ่งทิ้งเรือนให้บุตรธิดาอยู่ลำพังด้วยมื้อดา  ผู้เคยใช้สอยแลเห็นน้ำใจกันมาแต่กาลก่อน จึ่งไว้หฤทัยฮื่อนางนั้นเปนหูเปนตาต่างตัว  แลสองภริยาสามีนั้นจักกลับมายลพักตราบุตรธิดามาสหนึ่งราวสองคำรบ

      บนราวลวดโลหะลดหลั่นนั้นมีประดาพัสตราภรณ์อันนางสู้ชำระคราบเหื่อไคลรอยเปรอะแลธุลีเสียจนสะอาดเสี้ยง ( หมด ) ฝุ่น ฟุ้งสุคนธ์กำจรกำจาย  หมายรวมถึงชุดกระโปรงฝาหรั่งมือสองของนางแพงซึ่งนางเพ่อสวมออกแขกร่ำสุราบานด้วยสหายแลคู่ชิ้น ( แฟน ) เมื่อรัตติกาลก่อน

                พัดเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ในมือมีถุงกางเกงยีนส์ตัวที่เพิ่งซื้อมา  เดินไปเดินมาในบ้านเหมือนหาอะไรซักอย่าง  ออกไปดูถึงลานที่เอาไว้สำหรับตากผ้าตรงหลังบ้าน เลยเจอมื้อดาที่กำลังเก็บผ้าอยู่

                อ้าว  พี่ดา  อยู่นี่เอง 

      อันนามกะเหรี่ยงแต๊ๆ ( แท้ๆ )  แห่งมื้อดานั้นออกจักเปนที่ลำบากเข็ญใจเกินแก่สองพี่หญิงน้องบ่าวจักใช้กล่าวฮ้องได้โดยสะดวกโอษฐ์  จึ่งลดรูปเหลือแต่เพียง ดา แลเพิ่มคำ พี่ บ่งอาวุโส  อ้ายพัดแย้มทนต์แลเจาะจงยื่นส่งถุงใบหนึ่งจำเพาะแก่พักตร์นาง

                พี่ดา  นี่พัดเพิ่งซื้อมาใหม่  ฝากซักด้วยพี่ 

      มื้อดาทอดเนตรถุงนั้น  เปิดออกแลใช้สองนิ้วหัตถ์คีบหยิบเตี่ยวฝาหรั่งผ้าเดนิมเย็บแต่เมืองมะริกันนั้นออกทัศนาโดยเดียดฉันท์ แลพลันย่นโขนงด้วยคลางแคลงในกมล 

      อันว่าเตี่ยวนั้นหนา แลมองคร่ำคร่าดุจว่ามิเคยได้ผ่านชลธารวารีร่วมศตสมัย  เหตุใดเล่าอ้ายพัดจึ่งออกอ้างว่าเป็นของใหม่ ?

                มือสองไงพี่  มือสอง  เน่าเนอะ  ต้มไปเลยดีกว่าพัดว่า  

                ขะ(ค่ะ)

      มื้อดาพยักพักตร์เห็นพ้อง  ก่อนนี้นางเฝ้าหลากใจทุกครายามประจักษ์ว่านางแพงนิยมจ่ายเบี้ยมิใช่น้อยแลกกับของเก่าของเดนอันนางแพงออกอ้างว่าเปน วินเทจ เฉกนี้มาใช้สอยอยู่เนืองๆ ครานี้นางจึ่งเข้าหฤทัยได้โดยง่าย เมื่อหัน ( เห็น ) น้องบ่าวแห่งนางแพงนั้นมีจิตวิกลนิยมไปข้างปรารถนาจักใช้สอยข้าวของเดนเขาอื่นดุจเดียวกับนางแพงผู้เปนเชษฐภคินี

      แลในเพลานั้นเอง  มิรั่วรู้ว่าด้วยวาโยประหลาดฤๅแรงโน้มถ่วงวิกลจากหนใด  ชุดฝาหรั่งมือสองนั้นไซร้จึ่งสำแดงการวิปริต โดยเลื่อนร่วงจากราวโลหะ สะบัดปลิวมาปะพักตร์มื้อดาแลคลุมศีรษะนางอยู่  นางตระหนกมิคาดด้วยแน่หฤทัยว่านางพาดแลหนีบมันไว้จงมั่นดิบดีแล้ว จึงเถิงแก่เผลอสติโดยพลัน ปล่อยเตี่ยวฝาหรั่งของอ้ายพัดนั้นร่วงลงปฤฐวี อ้ายพัดเห็นดังนั้นจึ่งรุดตรงเข้าฉวยเตี่ยวของตนขึ้น แลแก้ไขเสื้อกระโปรงนั้นเสียจนพ้นจากเศียรมื้อดาด้วยน้ำใจ  แลเข้าเปนธุระช่วยนางประกอบกิจเก็บภูษาด้วยเล็งแลเปนมั่นเหมาะว่ากิจของนางที่ยังมิแล้ว  อีกเพียงนิดก็จวนเจียนจักแหล่นจักลุล่วง ( หากกิจนั้นยังเหลืออีกนับคณา  อ้ายพัดก็จักนิ่งเฉยเสีย  ด้วยบ่าวผู้นี้มีสันดานไปข้างคร้านในงานบ้านอยู่เปนปรกติ ) มื้อดานางสำเหนียกรู้โดยญาน ว่าอีกมีจิรกาลเกินรอนี้ ย่อมจักบังเกิดความมิชอบมาพากลขึ้นในเคหาแห่งทั้งสองผู้ หากนางมิได้กล่าวอันใดแม้แต่วจี

      ฤๅครึ่งวจี

       

                ธรรมดาอันเรือนนางแพงแลอ้ายพัด  ตราบทิวาจนลุค่ำ มื้อดานางเฝ้าอยู่แต่ผู้เดียวจนเจนกมล  ด้วยสองผู้นั้นกว่าจักคืนเรือนในแต่ละราตรีก็ดื่นดึกนัก  แลวันใดแม้นบ่มีเหตุเบาหนักให้ต้องจรไปยังสำนักแห่งวิชชานั้นกว่าแต่ละผู้จักลืมเนตรคืนชีวิตเปนนรชาติก็เลยเพลไปโขอยู่  แลทั้งคู่มักจักมีกิจอันมิแจ้งประโยชน์ให้ต้องละจากเรือนอยู่เปนนิจ

      เพลานี้ตะวันล่วงคล้อย  มื้อดาให้เพลินเพลิดในกิจจำแนกภูษา ซึ่งนางชุบชีพแลรีดเสียจนเรียบสะอาดงามเข้าคืนสำนักเดิมแห่งมัน อันบ่ใช่กิจที่ลำบากทุเรศซ้อนกลแต่ประการใดนางเปิดตู้ในคูหาแห่งนางแพงอันมีชุดฝาหรั่งมือสองแขวนอยู่ให้เห็นได้อย่างจะแจ้ง  ด้วยมื้อดาเปนผู้นำมันมาแขวน ณ จุดนั้นด้วยนางเองแต่วันวาน  จึงนางจัดเก็บอาภรณ์แห่งวันใหม่เข้าแขวนแลตั้งซ้อนไว้ในตำแหน่งอันเหมาะควร

      นางย่างดำเนินสู่คูหานิทรารมย์แห่งอ้ายพัด  ซึ่งเพลานี้เจ้าคูหาออกกรีฑาออกเหื่อด้วยสหายมิอยู่เรือน  ในหัตถ์นางนั้นมีปวงพัสตราภรณ์สำหรับบุรุษแห่งมันผู้นั้นอันอันซักเสียหอมแล้ว  แลหัตถ์หนึ่งนางถือกำเตี่ยวฝาหรั่งเดนิมแน่นอย่างเต็มหัตถ์เต็มหฤทัยด้วยนางต้มแลซักแลชำระแล้วด้วยตนเองจนอ่องเอี่ยมเปนมั่นเหมาะมิโสโครกหนึบหนับออกกลิ่นคือผ้าเช็ดตีนดุจแรกประสพเมื่อวันก่อน  นางเฟ้นจำแนกจัดเก็บนานาอาภรณ์เข้าคืนยังต่างตู้จนครบถ้วน แลสอดแลพาดวางเตี่ยวเดนิมนั้นบนราวไม้ลดหลั่นจำเพาะสำหรับพาดเตี่ยว แลจากนั้นนางก็ถดหลังออกมาเมื่อสิ้นธุระ

       

                พี่ดา!  พี่ดา!

      เปนสุรเสียงแห่งนางแพงที่แผดกล้าสำแดงปารมีลงมาจากชั้นสองแห่งเรือน

                ขะ? “

      มื้อดาได้สดับจึ่งร้องตอบแลรุดดำเนินกึ่งวิ่งกึงๆ ขึ้นกระไดสู่นางแพงแทบจะทันที  แลบัดนี้นางได้ปะนางแพงยืนพักตร์ขึ้งกอดอุระอยู่ที่นั่นเคียงด้วยอ้ายเบ็นคู่ชิ้น  

      มื้อดาใช้เนตรบริสุทธิ์ดุจโปดกมฤคีทอดมองพักตร์ขึ้งแห่งนางแพงด้วยฉงนว่าตัวนางนั้นได้กระทำการกลใดบกพร่องจนเปนเหตุให้นางแพงถือกริ้วออกเคืองถึงเพียงนั้นฤๅ?

      ยามนี้มื้อดานางประผงแก่นไม้พื้นเมืองเสียจนขาวเหลืองนวลทั่วพักตร์ 
      อีกทั้งสองกรกอดกระ
      หวัดตุ๊กตาผ้าเย็บมือกะเหรี่ยงสไตล์สรรค์เป็นรูปกูปรีฤๅโคไพรที่นางนำติดกายมาแต่บ้านเกิดอันเปนสัญลักษณ์ว่านางได้ล่วงเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์แล้ว แลต้องมามีเหตุให้ลืมเนตรตื่นบรรทมด้วยนางแพงนี้เอง

                ไม่มีอะไรหรอก เอ่อพี่ดาเห็นชุดแส็กชุดที่แพงใส่เมื่อวันก่อนรึเปล่าพี่  ป่านนี้น่าจะซักแล้วนะ  ในห้องแพงหาหาเท่าไหร่ไม่เจอ มันใส่สบายน่ะพี่ดา  แพงว่าจะเอามาใส่นอนซะหน่อย

      นางแพงแสร้งกล่าวปุจฉาดุจมิมีโทโส  ด้วยเห็นพักตร์มื้อดานั้นซื่อใสแลกังวลในกิจภาระจนอดเอ็นดูมิได้ มื้อดาสดับความนั้นแลเกิดคลางแคลงว่าเหตุอันใดนางแพงจึ่งโกรธาในกิจที่ล่วงไปโดยถูกควรแล้วฉะนั้นด้วยเล่าหนอ ?

                อ่อ  ซะและเกะห้าและขะ อยู่นาห้อขะ

      ซับไตเติ้ล  อ๋อ  ซักแล้วเก็บให้แล้วค่ะ  อยู่ในห้องไงคะ

                อ้าว  แล้วทำไมแพงดูห้องแพงไม่เห็นมีเลย …”

      นางแพงนิ่ง  แลดำริในกมลว่าอาจเปนด้วยนางมื้อดานี้เผลอสติหลงลืมฤๅมิรู้ความด้วยนางนั้นเล่ามาจากดงจากดอนอันไกลโพ้น หากมิใช่เหตุใหญ่  จึ่งกล่าวแก่นางว่า

                เหรอพี่  เออ  งั้นไม่เป็นไร  เดี๋ยวแพงหาดูเองอีกทีแล้วกัน

      นางแพงกล่าว  อ้ายเบ็นสบเนตรนางแพงอย่างผูกสมัครแลห่วงใย  แลรุนหลังนางแต่ช้าๆ ให้กลับหลังเข้าค้นคุ้ยในคูหาแห่งนางเองอีกคราหนึ่ง

      แพงเซ็งมาก  โว้ย!  กะเหรี่ยงเพี้ยนนี่  ก็ดูสิห้องก็เล็กแค่นี้  ถ้าบอกว่าเอาขึ้นมาแล้ว  แล้วดูซิมันจะไปอยู่ไหนได้

                เดี๋ยวค่อยๆ ดูไปก็เจอมั้ง

      เบ็นพูดตอนที่ช่วยแพงเก็บเสื้อที่รื้อออกมาดูเข้าไปในตู้เหมือนตอนก่อนรื้อ

              หรือไม่งั้นก็ใส่ตัวอื่นนอนไปก่อนมั้ยแพง

      เบ็นออกความเห็น

                ก็บอกว่ามันใส่สบาย! เบ็นนี่!  แล้วหาของไม่เจอแบบนี้แพงจะนอนหลับได้ยังไงล่ะ!

      แพงบ่น  พาลเหมือนกับว่าเป็นความผิดของเบ็น

                  เซ็งอ่ะ  เบ็น  นี่ทำไมแพงจะต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ด้วยเนี่ย ปิดเทอมยิ่งเบื่อๆอยู่  โอ๊ย! ปวดฉี่ด้วย  

      แพงเริ่มบ่นรวมฮิตเรื่องรำคาญใจ เบ็นยิ้มแหยๆ ไม่รู้จะทำยังไงให้ดีไปกว่านั้น  เพราะที่ช่วยหาอยู่ก็ยังไม่เจอเหมือนกัน  แพงลุกขึ้นบิดขีเกียจ  แล้วเดินออกจากห้องจะไปเข้าห้องน้ำ 

      ตอนที่เดินผ่านห้องพัด  แพงก็เลยเปิดประตูห้องดูไปอย่างงั้นเผื่อๆ  แต่พอเปิดไฟก็ต้องตกใจที่เห็นผ้าสีแดงคุ้นๆ ตา

      ชุดแส็กมือสองของเธอที่หาย  มาวางนอนพาดยาวอยู่บนพื้นหน้าราวกางเกงของพัดนี่เอง!


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×